วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

Hello, I am Pan. I am an English teacher. I am from Thailand or I can say that I am a Thai native speaker. This is a page for everybody who wants to learn to speak English. Though I am a teacher, as I told you, I am not English native speaker. If there is any mistake about the lesson, you can give me a comment and then I can correct them. Any way let's go!!!
                                              
คำเหล่านี้เป็นกริยาช่วย
will อ่านว่า วิลล์ แปลว่า จะ
may อ่านว่า เมย์  ใช้ในการร้องขอ  หรือ ขออนุญาต
can อ่านว่า แคน  ใช้บอกเกี่ยวกับความสามารถ
do อ่านว่า  ดู  does  อ่านว่า  ดัส  ในที่นี้เป็นกริยาช่วย  ทำประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคคำถามหรือใช้เน้นการกระทำ
do not อ่านว่า โดนท์  ใช้กับประธานที่เป็นพหุพจน์   แปลว่า  ไม่ ห้าม  อย่า
does not  อ่านว่า ดัสเซิ่นท์ ใช้กับประธานที่เป็นพหุพจน์   แปลว่า ไม่ ห้าม อย่า
     เป็นคำที่เป็นคำถาม หรือ บางทีใช้เป็นตัวเชื่อม ขึ้นอยู่กับโครงสร้างประโยค 
ใคร
อะไร
ที่ไหน
เมื่อไร
อย่างไร
ทำไม
Who
What
Where
When
How
Why
ฮู
วอท
แวร์
เวน
ฮาว
วาย

คำสรรพนาม   ใช้แทนคำนามที่พูดแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดการพูดซ้ำๆซากๆ ซึ่งไม่เพราะหู
แปล
ประธาน(ผู้กระทำ)
กรรม(ผู้ถูกกระทำ)
แสดงความเป็นเจ้าของ
ผม ฉัน
คุณ เธอ
พวกเรา
พวกเขา
เขา(ผู้ชาย)
เขา(ผู้หญิง)
มัน

I    (ไอ)
You (ยู)
We  (วี)
They (เดย์)
He  (ฮี)
She (ชี)
It (อิท)
me (มี)
you (ยู)
us  (อัส)
them  (เดม)
him  (ฮิม)
her  (เฮอร์)
it (อิท)
my   (มาย)
your  (ยัวร์)
our   (เอาเออร์)
their  (แดร์)
his   (ฮีส)
her   (เฮอร์)
its   (อิทส















                              ประโยคประกอบด้วย  ประธาน + กริยา+ กรรม  หรือ ส่วนขยาย
                เรามาเรียนหัวข้อที่เป็น   ประธาน+ กริยา + กรรม (บอกการกระทำ)  ก่อนนะครับ
                                                   ผม     ทาน     มะม่วง
                                                   I +  eat +  a mango.
                                                   (ไอ  อีท  อะ แมงโก)
                                                    ผม     รัก    เขา
                                                    I  +   love  +   her.
                                                    (ไอ เลิฟว  เฮอร์)

                                                    เขา   รัก   ผม
                                                    She +   loves  +   me.
                                                    (ชี    เลิฟวส   มี)                                     
      ตัวอย่างเพิ่มเติม
ก.     ฉัน ทำความสะอาดห้อง   I make up the room. (ไอ เมค อัพ เดอะ รูม)
ข.     เขา ทำความสะอาดห้อง  She makes up the room.  (ชี เมคส อัพ เดอะ รูม)
ค.     พวกเราทำความสะอาดห้อง  We work.  (วี เวอร์ค)
ง.      ดิฉันทำความสะอาดห้อง  I change the towel. (ไอ เชนจ เดอะ เทาล)
จ.      เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ทำงาน A boy works.  (อะบอย เวิร์คส)
ฉ.     ดิฉัน ดูด ฝุ่น พื้นห้อง  I vacuum the floor. (ไอ แวค ควิม  เดอะ ฟลอร์)

การเติม May ข้างหน้าประธาน ใช้สำหรับการขออนุญาต
               ก.  ขอยืมดินสอของคุณได้ไหม May I borrow your pencil? (เมย์ ไอ บอร์โรว  ยัวร์ เพนซิล)
               ข.  ขอน้ำค่ะ  May I have some water? (เมย์ ไอ แฮพฟว ซัม วอเทอร์)
การเติม Can ข้างหน้าประธาน ใช้สำหรับถามเกี่ยวกับความสามารถ
       ฌ. คุณขับรถเป็นไหมค่ะ Can you drive? (แคน ยู ไดรฟว)
       ญ.  คุณพูดไทยเป็นไหมค่ะ Can you speak Thai?  (แคย ยู สปีค ไทย)
การเติม Do ข้างหน้าประธาน ใช้สำหรับเปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคคำถาม
       ฎ. คุณขับรถหรือค่ะ/ไหมค่ะ Do you drive? (ดู ยู ไดรฟ)
       ฏ. คุณรู้หรือค่ะ/ไหมค่ะ Do you know?  (ดู ยู โนว์)
 การเติม will ข้างหน้ากริยา แปลว่า จะ ใช้สำหรับบอกสิ่งที่จะเกิดขึ้นกะทันหัน คือ ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน เช่น
       ฐ. ดิฉันจะอาบนํ้าค่ะ I will take a bath. (ไอ วิลล์ เทค อะ บาธ)
       ฑ. ดิฉันจะนำส่งให้คุณค่ะ I will bring it to you. (ไอวิลล์ บริง ยู)
         have, has   แปลว่า มี, กิน, สั่งให้ทำ 
have (แฮฟว) เป็นคำกริยา แปลว่า มี
have no (แฮฟว โน) หรือ
don’t have (โดนท์ แฮฟว) แปลว่า ไม่มี
ใช้กับประธานที่เป็น I,You, We, They
และประธานพหุพจน์
เช่น    I  have drinking water.
          (ไอ แฮฟว ดริงกิง วอเทอร์)
          ผมมีนํ้าดื่ม 
          We have the key.
           (วี แฮฟว เดอะ คีย์)
           เรามีกุญแจ
           I have students clean the room.
          ( ไอ  แฮฟว สติวเดนทส คลีน เดอะ รูม)
           ผมให้นักเรียนทำความสะอาดห้อง
has  (แฮส) เป็นคำกริยา แปลว่า มี
has no (แฮส โน) หรือ
doesn’t have (ดัสเซินท์ แฮฟว) แปลว่า ไม่มี
ใช้กับประธานที่เป็น He,She, it และ
ประธานเอกพจน์  เช่น  
 She has drinking water.
 ชี แฮส ดริงกิง วอเทอร์
 เขา(ญ)มีนํ้าดื่ม
 John has the key.
 จอห์น แฮส เดอะ คีย์
 คุณจอห์นมีกุญแจ 
 A nurse has babies sleep.
(อะ เนอส แฮส เบ บีซ  สลีพ)     
 พยาบาลให้เด็กทารกนอนหลับ

do not, does not ในที่นี้เป็นกริยาช่วย อยู่หน้าคำกริยาแท้ แปลว่า ไม่, อย่า
Do not (โดนท์) แปลว่า ไม่,อย่า
ใช้กับประธานที่เป็น I, You, We, They
และประธานพหุพจน์  เช่น
        เรา ไม่มี ยาสีฟัน เลย
        We don’t have any toothpaste.
       (วี โดนท์  แฮฟว  เอ นิ ทูธเพสท)
Does not (ดัสเซิ่นท์) แปลว่า ไม่,อย่า
ใช้กับประธานที่เป็น He She It
หรือประธานที่เป็นเอกพจน์ เช่น
         เขา ไม่มี ยาสีฟัน เลย
         He does not have any toothpaste.
         ฮี ดัส เซิ่นท์ แฮฟว เอ นิ ทูธเพสท์


ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นโครงสร้างประโยคที่เป็น ประธาน  + กริยา +  กรรม
           ต่อไปเป็นโครงสร้างประโยค ประธาน + กริยา + ส่วนขยาย (กริยาใช้ is, am, are) ดังนี้
กริยาจะไม่บอกการกระทำ แต่จะบอก ชื่อ สถานที่ สถานภาพ อาชีพ หรือบรรยายรูปร่างลักษณะ
     am (แอม) แปลว่า เป็น  อยู่ คือ   ใช้กับประธานที่เป็น  เท่านั้น
     are (อาร์) แปลว่า  เป็น  อยู่ คือ   ใช้กับประธานที่เป็น  You  We  They และประธานพหุพจน์
     is  (อิส)   แปลว่า  เป็น  อยู่ คือ    ใช้กับประธานที่เป็น  He  She  it และประธานที่เป็นเอกพจน์
**ในกรณีเป็นประโยคปฏิเสธ ให้เติม not(นอท) หลังกริยา เป็น am not, are not, is not
เช่น ก. ผม ชื่อ พัน  I am Pan    (ไอ แอม พัน) บอกชื่อ
       ข. ผม ไม่ได้ ชื่อ พัน  I am not Pan  (ไอ แอม นอท พัน)   (ประโยคปฏิเสธ)
       ค. ผม อยู่ บ้าน   I am home. (ไอ แอม โฮม) บอกสถานที่
       ง. เขาเป็นโสด He is single  (ฮี อิส ซิงเกิล) บอกสถานภาพ
       จ. เขา สวย She is beautiful (ชี อิส บิวติ ฟุล) บอกลักษณะ
       ฉ. พวกเขาเป็นแขก(ผู้มาเยือน) They are guests. (เดย์ อาร์  เกสท์ส) บอกสถานภาพ
       ช. คุณ เป็น ใคร You are who. (ยู อาร์ ฮู). เมื่อเป็นคำถาม นำ Whoไว้ข้างหน้า
***การทำให้เป็นอนาคต ให้เปลี่ยน am, are, is  เป็น be แล้วเติม will ข้างหน้า กลายเป็น will be
เช่น  ซ. ผม จะ อยู่ บ้าน  I will be home. (ไอ วิลล์ บี  โฮม)
        ฌ. เขา จะ สวย She will be beautiful. (ชี วิลล์ บี บิว ติ ฟุล)
                                        การแปล  การเรียงตำแหน่งคำในประโยค
เมื่อเราแปลภาษาอังกฤษตามคำทีละตัว จะเห็นว่า ลักษณะการเรียงประโยคจะกลับกันหรือแปลถอยหลัง
หรือตัวขยายจะวางไว้ข้างหน้าในขณะที่ภาษาไทยจะวางตัวขยายไว้ข้างหลัง    
                เช่น  บ้านสีแดงหลังหนึ่ง   a red house         ผู้หญิงสวยคนหนึ่ง    a beautiful girl.

ประธาน
กริยา
กรรม หรือ ส่วนขยาย
The                      hotel
                           โรงแรม
has
มี
a                                      pool.
หนึ่ง                                สระ
The                    big hotel
             ใหญ่       โรงแรม
has
มี
a                swimming    pool.
หนึ่ง           ว่ายน้ำ            สระ
The       very    big   hotel
           มาก  ใหญ่   โรงแรม
has
มี
a   beautiful  swimming  pool.
หนึ่ง   สวย     ว่ายน้ำ        สระ
ในกรณีที่เป็นอนาคตไม่ว่าประธานจะมีจำนวนเท่าใด   ก็ใช้    will have
ถ้าเป็นประโยคปฏิเสธ กรณีนี้ ใช้ has no หรือว่า doesn’t have
แต่ถ้าโรงแรมมีหลายแห่งใช้ have no หรือ don’t have
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น